ความคืบหน้าคดีอดีตพระอาจารย์คม กับพวก ร่วมกันยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรี ซึ่งตอนแรกยอดเงินประมาณ 180 ล้าน แต่ต่อมารับสารภาพว่า เริ่มยักยอกเงินตั้งแต่ปี 63 และยอมบอกจุดที่ซ่อนทองคำและเงินสด ที่มีการฝังดินบนเขาหลังวัด ทำให้ทรัพย์สินที่ตรวจพบ มีมูลค่าเกือบ 300 ล้านบาท โดยตัวของผู้ต้องหาถูกส่งเข้าเรือนจำไปแล้ว
ล่าสุด มีการออกมาแฉวีรกรรมของอดีตพระคม ว่าในช่วงที่เคยบวชที่ จ.ราชบุรี ก็เคยมีเรื่องฟ้องร้องเกี่ยวกับกรณีอมเงินวัดมาแล้ว ก่อนจะหนีหายไป จนกลับมาเป็นข่าวใหญ่
โดยนายสมศักดิ์ อดีตผู้ใหญ่บ้าน ต.บ้านคา จ.ราชบุรี ถึงประวัติของอดีตพระคม ซึ่งเคยบวชอยู่ที่วัดป่าพระธาตุเขาน้อย ต.บ้านคา ทราบว่า อดีตพระคม ได้มาบวชจำพรรษาอยู่ที่วัดประมาณ 10 ปีก่อน หลังจากบวชแล้ว ตอนแรกก็มองว่าดี อดีตพระคมมีจุดเด่นเรื่องการเทศน์ เป็นที่ชื่นชอบของบรรดาญาติโยม ใครได้ฟังเทศน์แล้วก็เหมือนจะมีอาการเคลิ้มคำพูดจาก สล็อตวอเลท
ส่วนพฤติกรรมเกี่ยวกับเรื่องเงิน เวลาวัดมีงาน เช่น ทอดผ่าป่า อดีตพระคม จะเป็นคนจัดการเองทั้งหมด ทางกรรมการวัดบอกว่าเงินไม่ได้เข้าบัญชีวัด จนถึงขั้นมีเรื่องฟ้องร้องกัน ในคดีหมิ่นประมาท แต่สุดท้ายวัดและชาวบ้านเป็นฝ่ายชนะคดี เพราะตามหลักเงินก็ต้องเข้าบัญชีของวัด แต่กลับนำไปเข้าบัญชีส่วนตัว
ซึ่งในช่วงที่กำลังฟ้องร้องกันอยู่ ทางชาวบ้านก็ไม่อยากให้อยู่ที่วัด อดีตพระคมจึงไปสร้างกุฏิอยู่บนเขา มีพระพุทธรูปที่ได้จัดพิธีหล่อพระไว้ด้วย แต่พอหล่อเสร็จแล้วก็ขนย้ายเอาไปหมด ส่วนอดีตพระคมก็หายตัวไป กระทั่งกลับมาเป็นข่าวใหญ่ กรณี ยักยอกเงินวัดป่าธรรมคีรีที่โคราช
ทางด้าน พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พูดถึงการขยายผลคดีนี้ว่า ตำรวจยังไม่หยุดขยายผล แม้จะยังไม่พบผู้ร่วมกระทำผิดเพิ่มเติม จากผู้ต้องหาทั้ง 3 ราย แต่ยังต้องตรวจสอบเส้นทางการเงินให้ครบถ้วน หากพบใครมีส่วนร่วมกระทำผิดก็จะจับกุมทั้งหมด
ศาลไม่ให้ประกัน “อดีตพระอาจารย์คม” พร้อมพวก หวั่นหลบหนี
พบกรุสมบัติอดีตพระอาจารย์คม ฝังดินหลังวัด เงินสด-ทองแท่ง ร่วม 100 ล้าน
“อดีตพระอาจารย์คม-น้องสาว” ยังปฏิเสธ ไม่ได้ยักยอกเงินวัด